วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดบทที่ 1


แบบฝึกหัดบทที่ 1

         1.จงเปรียบเทียบข้อแตกต่างของ ข้อมูลและสารสนเทศมาพอเข้าใจ

ตอบ   ข้อมูล คือ คำพรรณนาถึงสิ่งของ เหตุการณ์ กิจกรรมและธุรกรรม ซึ่งถูกบันทึก จำแนกและจัดเก็บไว้ภายในแหล่งข้อมูล โดยข้อมูลจะอยู่ในรูปตัวอักษร ตัวเลข รูปภาพหรือเสียงก็ได้และข้อมูลจะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบภายในฐานข้อมูลของระบบคอมพิวเตอร์

        สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ถูกจัดโครงสร้างให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายและมีมูลค่าต่อผู้รับโดยมีการนำข้อมูลผ่านการประมวลผลและจัดให้อยู่ในรูปแบบที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน

2      2.การจัดแบ่งหน้าที่งานทางธุรกิจมีความสัมพันธ์กับโครงสร้างองค์การอย่างไร

ตอบ    ทางแบ่งหน้าที่งานทางธุรกิจจะแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจ ขนาดของธุรกิจ และในการตั้งชื่อหน้าที่งานทางธุรกิจอย่างแตกต่างกันไป
          การดำเนินโครงสร้างองค์กรของธุรกิจที่สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบของบุคลากรในองค์กร เพื่อให้เข้าในรูปแบบของการจำแนกความแตกต่างของภาระงาน อำนาจหน้าที่ รวมทั้งการรายงานภาระความรับผิดชอบ
    
3.  การลงทุนเพื่อจัดตั้งธุรกิจใหม่ จะต้องดำเนินตามขั้นตอนอย่างไร

ตอบ        มีขั้นตอน ดังนี้

              1.  การจัดหาวัตถุดิบ สินค้า หรือทรัพยากรอื่น ๆ เพื่อใช้ในการผลิตสินค้าหรือบริการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

           2. การใช้ทรัพยากรเพื่อผลิตสินค้าหรือบริการ
           3. การขาย ตลอดจนการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการต่อลูกค้า

     4. จงเปรียบเทียบการประยุกต์ใช้ข้อมูลระดับปฏิบัติและระดับบริหาร

ตอบ      ระดับปฏิบัติการ   การใช้ข้อมูลระดับปฏิบัติการเปรียบเสมือนกระจกเงาที่คอยส่องดูแลงานด้านต่างๆ  โดยมีการใช้สารสนเทศช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงาน ตลอดจนการสรุปรายงานยอดขายประจำวัน
            ระดับบริหาร กระบวนการสารสนเทศ เป็นเครื่องมือช่วยสนับสนุนกิจกรรมด้านการจัดการตลอดจนการตัดสินใจทางธุรกิจ
       5. ผู้บริหารของบริษัทได้รับทราบงบการเงิน ในช่วงเวลาที่ต้องการตัดสินใจ แต่ในงบการเงินนั้นมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยจะมีผลต่อมูลค่าของสารสนเทศที่ผู้บริหารได้รับอย่างไร

ตอบ      ส่งผลทำให้มูลค่าของสารสนเทศที่ผู้บริหารจะได้รับเกิดความล่าช้าและมีมูลค่าต่ำลง

      6. กรณีที่ผู้บริหารในระดับควบคุมปฏิบัติการ ได้รับสารสนเทศที่มีรายละเอียดไม่พอต่อการตัดสินใจ อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างไร

ตอบ อาจก่อให้เกิดการดำเนินงานล่าช้าและเกิดความเสียหายต่อธุรกิจที่ทำอยู่

       7. การสั่งการของผู้บริหารระดับสูง ในเรื่องนโยบายเงินปันผลต่อผู้บริหารระดับกลางให้ควบคุมการจ่ายเงินปันผลแก่พนักงานทุกคน ถือเป็นสายงานด้านสาสนเทศในลักษณะใด

ตอบ ถือว่าสายงานด้านสารสนเทศในลักษณะแนวดิ่ง คือ สายงานที่เกิดจากระดับชั้นของผู้บริหารงานในองค์การ

         8.จงยกตัวอย่างโครงสร้างกระบวนการทางธุรกิจของบริษัทบริการโทรศัพท์มือถือ

ตอบ

1. กระบวนการปฏิบัติการ

2. กระบวนการจัดการ

3. กระบวนการสารสนเทศ



        9.  องค์การดิจิตอลมีความแตกต่างกับองค์การธุรกิจทั่วไปอย่างไร

ตอบ     องค์การดิจิทัลจะเป็นการทำงานที่หลากหลายมิติโดยอาศัยความสามารถของดิจิทัลซึ่งแตกต่างกับองค์การ
       ธุรกิจทั่วไปคือ องค์การธุรกิจทั่วไปจะอาศัยเพียงแต่คนเข้ามาทำงานและทำงานได้ช้ากว่าองค์การดิจิทัลความถูกต้องแม่นยำก็มีน้อยกว่า
10. องค์การควรดำเนินการอย่างไรเพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขันทางธุรกิจ                                         
  ตอบ ต้องมีการกำหนดวิธีโต้ตอบหลัก 7 วิธี
                  1. การจัดการเชิงกลยุทธ์
                 
 2. จุดศูนย์รวมลูกค้า
                  
3. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
                
 4. การปรับกระบวนการทางดุลการค้า
                 
5. นวัตกรรมด้านการผลิต
                     6. ธุรกิจอิเลกทรอนิกส์และอีคอมเมิร์ช
                
7. พันธมิตรทางธุรกิจ

นางสาวอนุสรา สายธนู  ชั้น บ.กว 4   เลขที่ 7   (จันทร์เช้า)

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สรุปบทที่ 1

สรุปบทที่ 1
 1.ธุรกิจ (Business Entity) คือ องค์กรหนึ่งที่เสนอสินค้าหรือบริการต่อลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจนั้น โดยมี    วัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรทางธุรกิจ
          รูปแบบองค์กรธุรกิจ
        1.เจ้าของคนเดียว
        2.ห้างหุ้นส่วน
       3.บริษัทจำกัด
        4.รัฐวิสาหกิจ
2.ประเภทของธุรกิจ แบ่งประเภทของตลาดธุรกิจในปัจจุบันออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
ประเภทที่ 1 หน่วยบริการ (Service Firm)
ประเภทที่ 2 หน่วยค้าสินค้า (Merchandising Firm)
ประเภทที่ 3 หน่วยผลิตสินค้า (Manufacturing Firm)
3.การจัดตั้งและการดำเนินงานทางธุรกิจ 
        ในส่วนกิจกรรมการดำเนินงาน (Business Activities) คือการดำเนินการด้านต่าง ๆ ที่จำเป็นของธุรกิจเพื่อความอยู่รอดขององค์กร โดยหมายรวมของสิ่งต่อไปนี้
         กิจกรรมที่ 1 การจัดหาวัตถุดิบ สินค้า หรือทรัพยากรอื่น ๆ เพื่อใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
        กิจกรรมที่ 2 การใช้ทรัพยากร เพื่อผลิตสินค้าหรือบริการนั้น ๆ
        กิจกรรมที่ 3 การขาย ตลอดจนการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการลูกค้า
4.หน้าที่งานทางธุรกิจ (Business Function)
       การจัดหน้าที่งานธุรกิจจะแตกต่างกันไปตามประเภทของธุรกิจ ขนาดของธุรกิจและสายผลิตภัณฑ์ ธุรกิจประเภทหน่วยค้าสินค้าจะได้รับประโยชน์การจัดแบ่งหน้าที่น้อยกว่าหน่วยผลิตสินค้า และสำหรับธุรกิจประเภทหน่วยบริการจะไม่มีหน้าที่งานด้านการผลิตอย่างเป็นทางการ
5.การจัดโครงสร้างองค์กร
        ที่แสดงให้เห็นถึงการแบ่งส่วนงานตามหน้าที่งานของธุรกิจ จะดำเนินงานตามโครงสร้างองค์กรของธุรกิจที่สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจ หน้าที่และความรับผิดชอบของบุคลากรในองค์กรโดยมีการปฏิบัติตามกิจกรรมการดำเนินงานของแต่ละหน่วยงาน ที่มีส่วนชวยให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร(Responsibility)
อำนาจหน้าที่(Authority) รวมทั้งการรายงานภาระรับผิดชอบ (Accountability)
            ความรับผิดชอบด้านสารสนเทศ
1.ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
       1.1 ข้อมูล คือคำพรรณนาถึงที่สอง เหตุการณ์ กิจกรรม และธุรกิจ ซึ่งถูกบันทึกจำแนกจัดเก็บภายในแหล่งเก็บข้อมูล แต่ยังไม่มีการถ่ายโอนโครงสร้างไปยังสถานที่เฉพาะเจาะจง โดยข้อมูลอยู่ในรูปแบบ ตัวอักษร ตัวเลข รูปแบบ หรือเสียงก็ได้และข้อมูลจะถูกจักเก็บอย่างเป็นระบบภายในฐานข้อมูล
       1.2 สารสนเทศ คือข้อมูลที่ถูกจัดโครงสร้างให้อยู่ในรูปแบบที่มีความหมายและมีมูลค่าต่อผู้รับ โดยมีการนำข้อมูลผ่านกระบวนการประมวลผล และจัดให้อยู่ในรูปแบบที่ตรงกับการต้องการของผู้ใช้งาน
       1.3 ความรู้จะประกอบด้วย ข้อมูลสารสนเทศซึ่งถูกจัดโครงสร้างและประมวลผลเพื่อถ่ายโอนความเข้าใจประสบการณ์และเรียนรู้ที่สะสมไว้ภายในฐานความรู้
2. คุณลักษณะของสารสนเทศที่ดี
       สำหรับสารสนเทศที่ดี มีประโยชน์และอยู่ในรูปแบบที่บ่งบอกความหมายสำหรับการตัดสินใจนั้นจะประกอบด้วยคุณลักษณะ6ประการดังนี้
       2.1 ความตรงกับกรณี
      2.2 ความทันต่อเวลา
      2.3ความถูกต้อง
     2.4ความครบถ้วนสมบูรณ์
     2.5การสรุปสาระสำคัญ
     2.6การตรวจสอบได้
3.ข้อมูลของสารสนเทศ
      จัดเป็นทรัพยากรที่สำคัญของธุรกิจ เช่นเดียวกับทรัพยากรประเภทอื่นสารสนเทศมีความสำคัญต่อการอยู่รอดของธุรกิจและก่อให้เกิดมูลค่าต่อสารสนเทศ โดยเฉพาะกรณีต่างๆดังนี้
      กรณีที่1. การชวยชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์
      กรณีที่2. การช่วยลดความไม่แน่นอน
      กรณีที่3. การให้ผลป้อนกลับ
4.ข้อจำกัดของการใช้สารสนเทศ    
       ประการที่1.การเกิดภาวะของสารสนเทศที่มากเกินความจำเป็น
       ประการที่2.มาตรการวัดผลการดำเนินงานที่ไม่เหมาะสม
เทคโนโลยีสารสนเทศ
        การที่องค์กรจะได้รับสารสนเทศที่ดีมีประสิทธิภาพนั้น ต้องมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในทุกๆขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การรับข้อมูลเข้า การประมวลผลข้อมูล
1.ความหมายและส่วนประกอบ
      เทคโนโลยีหมายถึง วิทยากรที่นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติและอุตสาหกรรม
      จากความหมายข้างต้นสามารถกำหนดโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศที่ประกอบด้วยส่วนต่างๆดังนี้
1.ฮาร์ดแวร์ (Hardware) คือ ชุดของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
2.ซอฟต์แวร์ (Software) คือ ชุดคำสั่งสำหรับการประมวลผลของฮาร์ดแวร์
3.ฐานข้อมูล (Database) คือ ชุดของแฟ้มข้อมูล
4.เครือข่ายและโทรคมนาคม (Network & Telecommunication) คือ ชุดของอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบที่มีการใช้ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกันโดยใช้คอมพิวเตอร์ที่ต่างกัน
5.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Devices) คือ อุปกรณ์วงจรไฟฟ้าบนเครือข่าย ทั้งในรูปแบบใช้สายและไร้สาย
2. บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ
           เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการรวบรวมจัดเก็บ ประมวลผลข้อมูล ความรู้ และสารสนเทศ ใช้สำหรับการดำเนินงานภายใต้กระบวนการทางธุรกิจต่าง ๆ
            การใช้สารสนเทศในองค์กรธุรกิจ
1.กระบวนการทางธุรกิจ
           คือ การรวมตัวของ 3 ส่วนประกอบ คือ กระบวนการปฏิบัติการ (Operation Process) กระบวนการจัดการ (Management Process) และกระบวนการสารสนเทศ (Information Process)
2.แนวทางการใช้สารสนเทศทางธุรกิจ
           ถือเป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสำเร็จขององค์กร โดยมรการจัดหาสารสนเทศที่มีมูลค่าต่อการบริหารงานภายในองค์กร มีการตรวจสอบด้านคุณลักษณะของสารสนเทศที่เกิดประโยชน์ต่อการตัดสินใจ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จของการบรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป
3.สายงานด้านสารสนเทศ
           ผู้ใช้สารสนเทศทุกลุ่มล้วนมีความต้องการข้อมูลเฉพาะที่ตนสนใจเท่านั้น ซึ่งมักจะมีรายละเอียดและธรรมชาติของสารสนเทศที่แตกต่างกัน
              สารสนเทศทางธุรกิจยุคโลกาภิวัตน์
            โลกาภิวัตน์ (Globalization) หมายถึง การแพร่กระจายไปทั่วโลก การมีประชาคมโลกไม่ว่าจะอยู่ ณ จุดใดสามารถรับรู้ สัมพันธ์หรือผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว กว้างขวาง ซึ่งสืบเนื่องมาจากการพัฒนาระบบสารสนเทศ เป็นต้น
             อินเตอร์เน็ต (Internet) หมายถึง การเชื่อมต่อเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายสารสนเทศไปทั่วโลก
       





วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดที่ 3 พอเพยงกับเพียงพอแตกต่างกันอย่างไร

     คำว่า พอเพียง หมายถึง เต็มที่ตามต้องการ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่ขาดแคลน. ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า sufficient เช่น เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ มีหลักการคือ รู้จักพออยู่พอกิน และพอเพียงในทุกเรื่อง. การชลประทานทำให้เรือกสวนไร่นามีน้ำอย่างพอเพียง.
      ส่วนคำว่า เพียงพอ”  เป็นคำกริยา  หมายถึง  ได้เท่าที่ต้องการ,ได้เท่าที่กะไว้  ถ้าเป็นวิเศษณ์  หมายถึง  เท่าที่กะไว้,เท่าที่ต้องการส่วนคำว่า  “พอ”  เป็นวิเศษณ์  หมายถึง  เท่าที่ต้องการ,ควรแก่ความต้องการ,เต็ม,เต็มตามต้องการ,เหมาะ,ควร,ถูก,ชอบ  “พอมีพอกิน”  เป็นวิเศษณ์  หมายถึง  มีฐานะปานกลาง
        สรุปได้ว่า  คำว่า  พอเพียงกับเพียงพอ  เลือกใช้คำไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับกรณีและเรื่องที่พูดถึง  ส่วนในกรณีการเปรียบเทียบเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงกับหลักคำสอนของอิสลามนั้นมีความสอดคล้องกันในด้านหลักการโดยรวมหรือโดยหลักปรัชญาแต่ในส่วนของหลักคำสอนในศาสนาอิสลามนั้นมีความลึกซึ้งและมีรายละเอียดมากกว่า  คือมิใช่เป็นเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเรื่องอื่นๆ  ที่เกี่ยวข้องกับหลักปฏิบัติอันเป็นศาสนกิจและหลักจริยศาสตร์อีกด้วย
 

นางสาวอนุสรา    สายธนู   ชั้นป.ตรี 4    สาขา  SME   เลขที่  7

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

กรณีศึกษา: การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารงานร้านไอศกรีม Iberry
1.ประโยชน์ที่ร้านไอศกรีม Iberry นำไอทีเข้ามาช่วยการบริหารงาน นอกจากการแก้ปัญหาข้างต้นแล้ว ท่านคิดว่าทางร้านยังได้รับประโยชน์ใดได้บ้าง
ตอบ    ซึ่งจะทำให้ร้านดูทันสมัยขึ้น ช่วยให้การติดต่อสื่อสารระหว่างลูกค้ากับร้านไอศกรีม Iberry ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจในด้านการบริการของทางร้านได้  ซึ่งทางร้านได้ใช้ซอฟแวร์ Kiosque เข้ามาช่วยในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลในการขายแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านการเช็คสินค้าในแต่ละวัน และการรับออร์เดอร์ได้อย่างรวดเร็วทันใจ
2.ท่านคิดว่าในอนาคตร้านไอศครีม Iberry สามารถนำไอทีเข้ามาช่วยงานใดอีกได้บ้าง
ตอบ   1.เพิ่มคุณภาพด้านการบริการลูกค้า
          2.ด้านการเงิน ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย  ที่สะดวกรวดเร็วและถูกต้องได้
          3.เพิ่มผลผลิตให้แก่ทางร้าน
          4.ด้านการขาย-การจัดส่ง
          5.ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อรายงานการทำงานของพนักงานในร้านและใช้แก้ปัญหาของแต่ละสาขาได้
3.จากแนวคิดการนำไอทีมาใช้แก้ปัญหาของผู้บริหารร้านไอศครีม Iberry นั้น ท่านคิดว่าสามารถนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจใดได้บ้าง จงอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ      ใช้กับธุรกิจร้านอาหาร
     1.รับออดอร์ได้รวดเร็วทันใจ
     2.เพิ่ม ลด หรือเปลี่ยนแปลงออเดอร์ได้อย่างไม่มีปัญหา
     3.เช็คบิลรวดเร็ว และถูกต้องในทุกรายละเอียด
     4.รองรับในการขยายธุรกิจในอนาคต
     เช่น การนำกล้องวงจรปิด (CCTV) ด้วยระบบ Network Camera สามารถบันทึกเหตุการณ์ในการปฏิบัติงานของพนักงานภายในร้านได้ และการนำคอมพิวเตอร์มาใช้เก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าได้

นางสาวอนุสรา  สายธนู  ชั้น ป.ตรี 4  สาขา  sme  เลขที่ 7

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัด

1.สารสนเทศ คืออะไร
ตอบ    ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความ อย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เช่น ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมหรือสัญญาณระบบต่างๆ การสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบดาวเทียม การจองตั๋วเครื่องบิน การกดเงินจาก ATM เป็นต้น
2.การนำระบบสารสนเทศมาใช้ในองค์กร
ตอบ     การนำระบบสนเทศมาใช้ในองค์กร ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรมากมาย ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
      1. ทำให้ผู้บริหารมีสารสนเทศ (Information) มาช่วยในการตัดสินใจ การวิเคราะห์ การจัดการ และการควบคุมที่ดีขึ้น
      2.ทำให้ผู้บริหารสามารถจัดการการงานที่มีประสิทธิภาพขึ้น ด้วยการเสริมทางด้านการติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว
      3.ทรัพยากรสารสนเทศมีความสำคัญมากขึ้น และถือเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเช่นเดียวกับทรัพยากรด้านอื่นๆ ดังนั้นการจัดสรรงบประมาณการจัดซื้อหรือหรือหามาซึ่งทรัพยากรสารสนเทศถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ขององค์กร
      4.ผู้บริหารทุกคนถือว่ามีส่วนสำคัญในการจัดการ และการใช้ประโยชน์ของทรัพยากรสารสนเทศ
      5. ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง วัฒนธรรม และอิทธิพลทางการเมืองในองค์กรหน่วยงานสารสนเทศหรือหน่วยงานทีมีส่วนในการเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลจะมีความสำคัญมากขึ้นในองค์กร
ระบบสารสนเทศที่นำไปใช้ในองค์กร ในปัจจุบันนั้นที่สำคัญมี 3 อย่าง คือ
1.นำไปใช้ในการประมวลผลรายการ และการจัดทำรายงาน
2.นำไปใช้ในการช่วยการตัดสินใจ
3.นำไปใช้ในการช่วยการติดต่อสื่อสาร
3.การพัฒนาและการใช้ระบบสารสนเทศ
ตอบ    1)  การพัฒนาระบบงานแบบดั้งเดิม (Traditional SDLC Methodology) เป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศตามวงจรการพัฒนาระบบที่มีขั้นตอนที่แน่นอน วิธีนี้เป็นวิธีเก่าแก่ที่สุดและนิยมเรียกย่อๆ ว่า SDLC
           2)  การสร้างต้นแบบ (Prototyping) เป็นการสร้างระบบต้นแบบขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้ทดลองใช้งานซึ่งนอกจากผู้ใช้จะได้แนวคิดเกี่ยวกับสารสนเทศที่ต้องการแล้วยังช่วยให้มองเห็นภาพของระบบที่จะพัฒนาได้ชัดเจนขึ้น
การพัฒนาระบบโดยใช้ตนแบบแบงออกเป็น 4 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1   ระบุความต้องการเบื้องต้นของผู้ใช้
ขั้นที่ 2   พัฒนาต้นแบบเริ่มแรก
ขั้นที่ 3   นำต้นแบบมาใช้
ขั้นที่ 4   ปรับปรุงแก้ไขต้นแบบ
3)  การพัฒนาระบบโดยผู้ใช้ (End-user Development)
4)  การใช้บริการจากแหล่งภายนอก (Outsourcing) เนื่องจากองค์การไม่มีบุคลากรที่มีทักษะความชำนาญ การจ้างหน่วยงานหรือบริษัทภายนอกที่มีความชำนาญด้านนี้มาทำการพัฒนาระบบให้ ซึ่งการทำสัญญาจ้างให้หน่วยงานภายนอกมาทำงานเกี่ยวกับการดำเนินงานของฝ่ายคอมพิวเตอร์นี้เรียกว่า IT Outsourcing ในที่นี้จะเรียกสั้นๆ ว่า Outsourcing
5)  การใช้ซอฟแวร์สำเร็จรูปประยุกต์ (Application Software Package) เป็นทางเลือกหนึ่งในการพัฒนา เช่น ระบบงานเงินเดือน ระบบบัญชีลูกหนี้ หรือระบบควบคุมสินค้าคลคลัง หากซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสามารถสนองต่อความต้องการระบบงานขององค์การได้ องค์การก็ไม่จำเป็นต้องพัฒนาขึ้นเอง เนื่องจากโปรแกรมสำเร็จรูปได้รับการออกแบบและผ่านการทดสอบแล้ว จึงช่วยลดค่าใช่จ่ายและเวลาในการพัฒนาระบบใหม่และยังช่วยให้การทดสอบ การติดตั้ง และการบำรุงรักษาระบบเป็นไปได้ง่ายขึ้น
4.ระบบสารสนเทศ (IS) ต่างกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) อย่างไร
ตอบ        IT หมายถึงเทคโนโลยีในการรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บอย่างมีระบบ การเรียกหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว การประมวลผล การวิเคราะห์ผลที่ได้จากการประมวลนั้น รวมไปถึงการเน้นในเรื่องการแสดงผล และประชาสัมพันธ์สารสนเทศนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ ในรูปแบบที่เหมาะสมกับผู้ที่จะนำไปใช้ต่อไป ตลอดไปจนถึงการสื่อสารข้อมูลนั้นไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย
             IS หมายถึง วิชาที่ว่าด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บอย่างมีระบบ การเรียกหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว วิธีการต่าง ๆ ในการประมวลผล การวิเคราะห์ผลที่ได้จากการประมวลผลนั้น รวมไปถึงการเน้นในเรื่องการแสดงผล บางทีเรียก MIS (management information system)
5.จะเรียนอะไรในวิชา ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (SME)
ตอบ     การตลาดแบบ SMEs และนักการตลาดจะต้องคิดเกี่ยวกับการแผนและการทำตลาด และเรื่องเกี่ยวกับกลยุทธ์เฉือนคู่แข่งขัน คือ เปลี่ยนกฎการเล่น , ใช้การแตกส่วนตลาด , หาพันธมิตร และใช้ยุทธวิธของนายพลแพ็ตตัน
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS) ก็คือการนำเอาระบบสารสนเทศมาบริหารจัดการองค์ประกอบ ได้แก่ ข้อมูล อุปกรณ์ที่เหมาะสม(คอมพิวเตอร์) กระบวนการที่เป็นมาตรฐาน รูปแบบของการทำงาน และคนปฏิบัติงานผู้ใช้ระบบ
ขั้นตอนการทำงาน โดยการนำข้อมูลไปผ่านกิจกรรมการดำเนินการต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบดังกล่าวแล้ว และผลออกมาจะได้สารสนเทศ ซึ่งสารสนเทศที่ได้นี้ก็จะมาอยู่ในมือของผู้บริหาร ที่สามารถนำมาใช้ในการบริหารจัดการ ให้สำเร็จตามบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กรได้

 นางสาวอนุสรา   สายธนู  ชั้น ป.ตรี 4/1  สาขา การจัดการ SME